มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะ “ปัญญาของแผ่นดิน” มียุทธศาสตร์สำคัญหลายประการที่จะช่วยขับเคลื่อนและร่วมพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการวิจัย ที่ส่งเสริมสนับสนุนการสร้างองค์ความรู้ใหม่ ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยมหิดล มีผลิตผลงานนวัตกรรมต่าง ๆ มากมาย โดยใช้จุดแข็งที่สำคัญของมหาวิทยาลัย คือความเชี่ยวชาญที่ครบถ้วนในสหสาขาวิชา มุ่งเน้นการสร้างกลไกในการเชื่อมโยง และกำหนดทิศทางประสานความร่วมมือ ทั้งด้านสานภารกิจวิจัย (Synergy Research) เพิ่มอำนาจผู้เรียน (Empowering Learners) และขยายผลสัมฤทธิ์ (Amplifying Operation) บูรณาการระหว่างสาขาวิชาต่างๆ เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้พร้อมเดินหน้าสร้างสรรค์งานวิจัยและนวัตกรรมให้ตอบโจทย์ความต้องการของสังคมปสู่ผลสำเร็จใน Real World Impact ซึ่งปัจจุบัน นอกจากจะพัฒนาด้านระบบการให้บริการ นวัตกรรมกรรมใหม่แล้ว ยังมีการผลักดันเรื่องงานวิจัยยาซึ่งมีจำนวนมาก แต่ยังคงติดในเรื่องของการไม่สามารถเข้าสู่ Clinical Trial ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยสามารถผลิตยาได้เอง
มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เล็งเห็นถึงโอกาสและมุ่งหวังผลักดันที่จะพัฒนาการรักษาโรคมะเร็งด้วยการใช้เซลล์แทนเคมีบำบัด ในผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาว ชนิด บีเซลล์ ผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ชนิด บี เซลล์ได้ด้วย รวมไปถึงมะเร็งมัยอิโลมา มะเร็งกระดูก มะเร็งสมอง มะเร็งต่อมหมวกไต และอื่น ๆ ซึ่งปัจจุบันโรคนี้มีการดื้อต่อยาที่ใช้รักษามากขึ้น และต้องนำเข้ายาจากต่างประเทศที่มีราคาสูงมาก จึงได้จัด “โครงการระดมทุนเพื่อการรักษาโรคมะเร็งด้วยการใช้เซลล์แทนเคมีบำบัด” เพื่อนำเงินมาใช้คิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมทั้งทดสอบการวิจัยผลิตภัณฑ์ยา CAR-T Cell ที่มีราคาสูง สามารถเกิดขึ้นในประเทศไทยได้เอง ลดรายจ่ายในการดูแลสุขภาพ อีกทั้งยังลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศ ที่ในแต่ละปีประเทศไทยรับภาระค่าใช้จ่ายอย่างมหาศาล ซึ่งจะเป็นอนาคตที่สำคัญของวงการแพทย์ไทย
เพื่อนำเสนอข้อมูลกระบวนการคิด Systematic Framework ในการทำให้เกิด Innovation ผลกระทบในภาคเศรษฐกิจของประเทศ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และถ่ายทอดเรื่องราวนวัตกรรมและงานวิจัยของมหาวิทยาลัยที่สามารถสร้างและทำให้เกิดขึ้นได้จากองค์ความรู้ที่เป็นจุดแข็งของมหาวิทยาลัยมหิดล จึงได้จัดงาน “Human Interaction for Systematic Innovation” ภายใต้โครงการระดมทุนเพื่อการรักษาโรคมะเร็งด้วยการใช้เซลล์แทนเคมีบำบัด ในวันอังคารที่ 21 มกราคม 2568 เวลา 08.30 - 13.30 น. ณ มหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา