1.สามารถซักประวัติตรวจร่างกาย ประเมินปญหาและความตองการแรกรับและ วางแผนการพยาบาลตามมาตรฐานวิชาชีพ วินิจฉัยความรุนแรง ภาวะเร่งด่วนดวนของปญหาและตัดสินใจแกปญหาช่วยเหลือผู้รับบริการได้อย่างเหมาะสม
2..สามารถติดตามเฝ้าระวังความก้าวหนาของการคลอด และประเมินสภาพทารกในครรภอย่างต่อเนื่องตามมาตรฐานวิชาชีพใน
กรณีผู้คลอดทั่วไป กรณีเร่งคลอด และกรณี High risk pregnancy
3.เตรียมความพรอมผู้คลอดทั้งร่างกายและจิตใจ สำหรับการคลอดปกติและช่วยคลอดสูติศาสตร์ หัตถการเตรียมอุปกรณเครื่องมือเครื่องใชให
พรอมในการช่วยเหลือมารดาและทารกในภาวะวิกฤต
4.ประเมินสภาพร่างกายผู้คลอด ทารกในครรภและดูแลความสุขสบายตลอดระยะเวลาของการคลอด
5.สามารถใหการพยาบาลมารดาและทารกตามมาตรฐาน ในระยะ 2 ชั่วโมงหลังคลอด
6. สามารถปฏิบัติตามแนวทางการสงเสริมเลี้ยงลูกด้วยนมมารดาและ Early bonding และสงเสริมสายสัมพันธพอ–แม่-ลูก
7.ให้การพยาบาลตามมาตรฐานวิชาชีพ ทั้งการพยาบาลพื้นฐาน เช่น การให้ยา การเฝ้าระวังอาการเปลี่ยนแปลงผู้ป่วย ตลอดจนจัดการกับอาการรบกวนต่างๆทั้งทางร่างกายและจิตใจ รวมถึงการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วย
8.จัดการให้เกิดการดูแลต่อเนื่องในผู้ป่วยแต่ละราย ได้แก่ การเฝ้าระวังสังเกตอาการอย่างต่อเนื่อง การส่งต่อแผนการรักษาพยาบาล การประสานงานกับหน่วยงานหรือทีมงานที่เกี่ยวข้อง การสื่อสารเพื่อการส่งต่อผู้ป่วยทั้งการส่งต่อภายในหน่วยงาน ระหว่างหน่วยงานในโรงพยาบาลระหว่างโรงพยาบาลหรือหน่วยงานภายนอกโรงพยาบาล รวมทั้งการช่วยเหลือกรณีผู้ป่วยเสียชีวิต
9.สอน สาธิต ให้คำแนะนำผู้ใช้บริการและครอบครัว เกี่ยวกับข้อมูลการรักษาพยาบาล สนับสนุนการดูแลสุขภาพตนเองของผู้ใช้บริการและครอบครัว โดยการให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ และการฝึกทักษะที่จาเป็นในการดูแลสุขภาพตนเอง การเฝ้าระวังสังเกตอาการผิดปกติ การแก้ไขอาการเบื้องต้น การป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ การใช้ยา การมาตรวจตามนัด ทั้งนี้รวมถึงการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดูแลสุขภาพอื่นๆ เช่นการอธิบายก่อนลงนามยินยอมรักษาพยาบาล หรือก่อนการส่งต่อไปยังสถานพยาบาลแห่งอื่น และการแจ้งข่าวร้ายกรณีผู้ป่วยเสียชีวิต
10. ให้การพยาบาลบนพื้นฐานของสัมพันธภาพ และการสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ใช้บริการด้วยบุคลิกภาพที่เหมาะสมโดยเฉพาะการช่วยเหลือเอาใจใส่ การให้ข้อมูลและการตอบสนองความต้องการ /ความคาดหวังของผู้ใช้บริการอย่างเหมาะสมตามสมรรถนะหลักที่จาเป็นของผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
11. ดูแลรักษาครุภัณฑ์ อุปกรณ์ทางการแพทย์และของใช้เพื่อการรักษาพยาบาลให้มีเพียงพอ พร้อมใช้ในภาวะฉุกเฉิน มีความปลอดภัยในการใช้งานกับผู้ป่วยเพื่อให้การดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากอุปกรณ์ไม่พร้อมหรือไม่ปลอดภัย
12. รับผิดชอบเป็นหัวหน้าเวร(ผู้ที่ผ่านเกณฑ์ประเมิน) โดยบริหารจัดการด้านบุคลากร มอบหมายงานให้แก่บุคลากรในระดับรองลงมา ตามความรู้ความสามารถ และติดตามผลการปฏิบัติงาน บริหารจัดการด้านบริการพยาบาลให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย บริหารจัดการเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเวรที่รับผิดชอบ ตลอดจนรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับขั้น
13. ป้องกันและควบคุมความปลอดภัยด้านกายภาพและสิ่งแวดล้อมเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและการบาดเจ็บต่างๆ รวมทั้งการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค ตามมาตรฐานที่โรงพยาบาลกำหนด
14. ให้การสนับสนุนด้านการศึกษา วิชาการ การวิจัยและการพัฒนาคุณภาพงานต่างๆตามข้อมูล/ตัวชี้วัด เป็นผู้นำ/สมาชิกกลุ่มในการทำกิจกรรมพัฒนาคุณภาพงานบริการพยาบาล
15. ให้ความร่วมมือในการบริหารงานด้วยการเข้าประชุม เสนอความคิดเห็น มีส่วนร่วมในการประเมินผลปฏิบัติงานของผู้ร่วมงานและผู้ใต้บังคับบัญชา
16. ปฏิบัติงานตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย