๑. คุณสมบัติของผู้จะดํารงตําแหน่งหัวหน้าภาควิชา
๑.๑ ต้องสําเร็จการศึกษาชั้นปริญญาหรือเทียบเท่าจากมหาวิทยาลัย หรือสถาบันอุดมศึกษาอื่น
สภามหาวิทยาลัยรับรอง
๑.๒ สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เต็มเวลา
๑.๓ เป็นพนักงานมหาวิทยาลัย แต่ถ้ายังเป็นข้าราชการจะต้องมีหนังสือแสดงเจตนาเปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยต่อคณะกรรมการสรรหา หากได้รับการพิจารณาแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งหัวหน้าภาควิชา
กรณีเป็นบุคคลภายนอก คณะกรรมการสรรหาหัวหน้าภาควิชาอนามัยชุมชนได้กำหนดคุณสมบัติ ดังนี้
๑) จะต้องแสดงเจตนาต่อคณะกรรมการสรรหาฯ ในการบรรจุเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย
โดยต้องมีคุณสมบัติตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยมหิดล ว่าด้วยการบริหารงานบุคคลพนักงานมหาวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๕๑ และปฏิบัติงานเต็มเวลา
๒) จบการศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาที่เกี่ยวข้องกับ สาธารณสุขศาสตร์ หรือ
การพัฒนาชุมชน
๓) ต้องเป็นผู้ที่รู้บริบทของคณะสาธารณสุขศาสตร์ และภาควิชาอนามัยชุมชน
๑.๔ ไม่เคยถูกคำสั่งลงโทษทางวินัยหรือจรรยาบรรณในระหว่างปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัย
๑.๕ จะต้องเป็นผู้ที่มีคุณลักษณะตามภารกิจหน้าที่
๑.๕.๑ ด้านวิชาการ
๑) มีประสบการณ์ด้านการสอน การวิจัย และมีสัมฤทธิผลทางวิชาการสูง
๒) มีความคิดริเริ่มในทางวิชาการ
๓) มีความสนใจ เอาใจใส่ด้านการศึกษา
๑.๕.๒ ด้านการบริหาร เป็นผู้มีความรู้ ความเข้าใจในภาระงาน และมีประสบการณ์ หรือ
มีความสามารถในการบริหารงาน
๑.๕.๓ ด้านจริยธรรม เป็นผู้มีประวัติอันดีงาม ทั้งในด้านการงานและส่วนตัว มีคุณธรรม
จริยธรรม เป็นตัวอย่างที่ดี
๒. ลักษณะต้องห้าม
๒.๑ เป็นผู้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง หรือ
เจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง
๒.๒ เป็นคนวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ หรือเป็นโรค
ตามที่ ก.บ.ค. กำหนด
๒.๓ เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักงาน หรือถูกสั่งให้ออกจากงาน
๒.๔ เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรม จริยธรรมอันดี
๒.๕ เป็นบุคคลล้มละลาย
๒.๖ เคยถูกจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำ
โดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
๒.๗ เคยถูกลงโทษให้ออก หรือปลดออก หรือไล่ออกจากรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หน่วยงาน
ของรัฐ หน่วยงานเอกชน หรือองค์การระหว่างประเทศ
๒.๘ เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออก เพราะกระทำผิดวินัย
๒.๙ เป็นผู้ที่เคยกระทำการทุจริตในการสอบเข้ารับราชการ หรือปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ